พาไปรู้จักรองเท้าออกกำลังกาย รองเท้าเทรนนิ่ง 10 รุ่นสำหรับผู้หญิง - ผู้ชาย

10 รองเท้าเทรนนิ่งแนะนำสำหรับมือใหม่

การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลายด้าน ทั้งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด ช่วยเผาผลาญแคลอรี ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง และเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมสำหรับการวิ่งมีความสำคัญต่อการป้องกันการบาดเจ็บ ควรเลือกรองเท้าที่ซัพพอร์ตเท้าดี มีความนุ่มสบาย และพอดีกับรูปเท้า เพื่อช่วยลดแรงกระแทกและส่งเสริมประสิทธิภาพในการวิ่ง รองเท้าออกกำลังกายมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับประเภทและลักษณะของการใช้งาน การเลือกสวมรองเท้าที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย ลดอาการบาดเจ็บ และทำให้การเคลื่อนไหวสะดวกสบายมากขึ้น 

รองเท้าเทรนนิ่งและรองเท้าวิ่งเป็นรองเท้าออกกำลังกายที่มีลักษณะและจุดเด่นที่ต่างกัน ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้: 

  1. รองเท้าเทรนนิ่ง (Training Shoes)

รองเท้าเทรนนิ่ง คือ รองเท้าออกกำลังกายที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย เช่น ยกน้ำหนัก กระโดด วิ่งระยะสั้น คลาสฟิตเนส หรือการทำ HIIT โดยมีประเภทและจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้: 

  • รองเท้าครอสเทรนนิ่ง (Cross-Training Shoes) เหมาะกับการออกกำลังกายแบบผสม เช่น เวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอ ส่วนพื้นรองเท้ามีการยึดเกาะที่ดีและเสริมความแข็งแรงด้านข้างรองรับการเคลื่อนไหวหลากหลายทิศทาง 
  • รองเท้ายกน้ำหนัก (Weightlifting Shoes) เหมาะสำหรับการยกน้ำหนักโดยเฉพาะ มีพื้นรองเท้าที่แข็งแกร่งและแบนราบ ช่วยให้มั่นคงขณะยกน้ำหนักหนัก ๆ และส่วนส้นมักจะสูงกว่าปกติเพื่อช่วยในการยืนที่ถูกท่าและให้พลังในการยกน้ำหนักเพิ่มขึ้น 
  • รองเท้าคาร์ดิโอ (Cardio Shoes) ถูกออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกายคาร์ดิโอ มีน้ำหนักเบาและความยืดหยุ่นที่ดี รองรับการกระโดดและเคลื่อนไหวเร็ว มีการซับแรงกระแทกอย่างดีเพื่อลดแรงสะเทือนต่อข้อเท้าและเข่า 
  • รองเท้า HIIT (High-Intensity Interval Training Shoes) เหมาะสำหรับการออกกำลังกายแบบ HIIT ที่ต้องการความคล่องตัวและความเร็วในการเปลี่ยนทิศทาง อีกทั้งยังให้การยึดเกาะที่ดี รองรับการเคลื่อนไหวรุนแรงและการเปลี่ยนทิศทางบ่อย 

จุดเด่นของรองเท้าเทรนนิ่ง 

  • การรองรับหลายทิศทาง: รองเท้าเทรนนิ่งส่วนใหญ่มีโครงสร้างที่เสริมด้านข้างเพื่อการเคลื่อนไหวหลายทิศทาง 
  • การซับแรงและความทนทาน: มีโครงสร้างที่ทนทานต่อแรงกระแทกซ้ำๆ เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่ใช้แรงเยอะ 
  • การยึดเกาะที่ดี: ช่วยให้มั่นคงขณะทำท่าออกกำลังกายหลากหลายแบบ 

 

  1. รองเท้าวิ่ง (Running Shoes)

รองเท้าวิ่ง คือ รองเท้าออกกำลังกายที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการวิ่งบนถนน ลู่วิ่ง หรือเทรล โดยมักเน้นที่การซับแรงกระแทกและการรองรับแรงในการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าเป็นหลัก ซึ่งแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้: 

  • รองเท้าวิ่งบนถนน (Road Running Shoes) ลักษณะเด่นคือออกแบบมาเพื่อใช้บนพื้นถนนหรือพื้นเรียบ มีน้ำหนักเบาและการซับแรงกระแทกดี ช่วยลดแรงสะเทือนต่อข้อเท้าและเข่า ส่วนพื้นรองเท้ามีดอกยางไม่หนามาก เหมาะกับพื้นเรียบและการวิ่งระยะไกล 
  • รองเท้าวิ่งเทรล (Trail Running Shoes) เหมาะสำหรับการวิ่งบนเส้นทางธรรมชาติ เช่น ป่าและภูเขา มีดอกยางที่ลึกเพื่อการยึดเกาะที่ดีบนพื้นผิวไม่เรียบ โครงสร้างแข็งแรงและทนทาน ช่วยป้องกันแรงกระแทกจากหินและอุปสรรคในธรรมชาติ 
  • รองเท้าวิ่งความเร็ว (Racing Shoes) ถูกออกแบบมาให้เบาและตอบสนองไว เหมาะสำหรับการวิ่งแข่งหรือผู้ที่ต้องการทำเวลา และบางรุ่นมีแผ่นคาร์บอนช่วยเพิ่มความเร็วและแรงดีดกลับในการวิ่ง 
  • รองเท้าวิ่งระยะไกล (Long-Distance Running Shoes) ออกแบบมาสำหรับการวิ่งระยะยาว มีการซับแรงกระแทกที่ดีเยี่ยมเพื่อความสบายในการวิ่งนาน ๆ ส่วนพื้นรองเท้ามีโครงสร้างที่ให้ความนุ่มนวลแต่ยังคงทนทานต่อการใช้งานหนัก 

จุดเด่นของรองเท้าวิ่ง 

  • การซับแรงกระแทกที่ยอดเยี่ยม: เพื่อป้องกันแรงสะเทือนจากการวิ่งและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ 
  • น้ำหนักเบาและความยืดหยุ่น: เหมาะสำหรับการวิ่งในระยะทางต่างๆ ช่วยให้เคลื่อนไหวคล่องตัวและไม่หนักเท้า 
  • การยึดเกาะและความทนทาน: รองเท้าวิ่งเทรลมีดอกยางลึกที่ช่วยให้ยึดเกาะบนเส้นทางธรรมชาติ ส่วนรองเท้าวิ่งถนนมีพื้นเรียบที่เหมาะกับถนนเรียบ 

การเลือกรองเท้าที่เหมาะกับการออกกำลังกาย สามารถส่งผลต่อทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการฝึกซ้อมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "รองเท้าเทรนนิ่ง" ซึ่งถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการยกน้ำหนัก การทำคาร์ดิโอ การฝึก HIIT หรือแม้แต่คลาสฟิตเนสในยิม การเลือกรองเท้าเทรนนิ่งที่ดีไม่เพียงแค่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ แต่ยังทำให้คุณเคลื่อนไหวได้คล่องตัวและมีพลังในการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ 

 หากคุณกำลังมองหารองเท้าสำหรับการเล่นฟิตเนสโดยเฉพาะ อย่ารอช้า ลองไปสัมผัสและทดลองใส่รองเท้าเทรนนิ่งที่ตอบโจทย์ในแบบของคุณ ค้นหาคู่ที่ให้ทั้งการซับแรงที่ดี ความยืดหยุ่น และความมั่นคงเพื่อความสบายและประสิทธิภาพในการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง พร้อมที่จะก้าวสู่การออกกำลังกายที่มีพลังและมั่นใจ ไปเลือกคู่ที่ใช่และเริ่มต้นการเทรนไปกับรองเท้าคู่ใจ ของ 10 รองเท้าออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงและผู้ชายกันเลย!! 

 

  1. HOKA Clifton 9

หากคุณกำลังมองหารองเท้าที่เบาสบายและซับแรงกระแทกได้ดี Clifton 9 จะช่วยให้การวิ่งระยะไกลหรือการออกกำลังกายบนพื้นเรียบง่ายขึ้น คลายความเหนื่อยล้าและพร้อมพุ่งไปข้างหน้า 

จุดเด่น: มีความเบาและซับแรงกระแทกดี เหมาะสำหรับการวิ่งระยะไกลและการออกกำลังกายบนพื้นเรียบ 

ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง HOKA Clifton 9  

 

  1. HOKA Rincon 3

ออกแบบมาเพื่อความเร็ว ด้วยน้ำหนักที่เบาและการตอบสนองที่ไว Rincon 3 จึงเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ชอบการคาร์ดิโอแบบหนัก ๆ หรือการวิ่งที่ต้องการความคล่องตัวสูง 

จุดเด่น: เบาและตอบสนองไว พร้อมดีไซน์เพรียวบาง เหมาะกับการทำคาร์ดิโอและวิ่งที่ต้องการความคล่องตัวสูง 

ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง HOKA Rincon 3

 

  1. HOKA Bondi 8

รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการซัพพอร์ตเต็มที่ ด้วยโฟมหนานุ่ม ลดแรงกระแทกและช่วยให้สบายเท้าตลอดการฝึกหนัก เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่ต้องการการซัพพอร์ตอย่างเต็มที่ 

จุดเด่น: โฟมหนา ลดแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม สวมใส่สบาย เหมาะกับผู้ที่ต้องการรองเท้าที่ช่วยลดแรงสะเทือนจากการวิ่งและเทรนนิ่งหนักๆ 

ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง HOKA Bondi 8

 

  1. HOKA Kawana

Kawana เน้นความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการฝึกที่ต้องเคลื่อนไหวหลายทิศทาง ไม่ว่าคุณจะยกเวทหรือทำคาร์ดิโอในยิม คู่นี้จะช่วยให้เคลื่อนไหวได้ลื่นไหลและมั่นคง 

จุดเด่น: พื้นโฟมยืดหยุ่นสูง รองรับการเคลื่อนไหวหลายทิศทาง เหมาะกับการฝึกที่มีการเปลี่ยนทิศทางบ่อยๆ 

ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง HOKA Kawana

 

  1. HOKA Arahi 7

สำหรับคนที่ต้องการความมั่นคงสูง Arahi 7 เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม ด้วยการซัพพอร์ตข้อเท้าและป้องกันการพลิก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทรงตัวที่มั่นคง 

จุดเด่น: เสริมความมั่นคงป้องกันการพลิกข้อเท้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อเข่า ข้อเท้า และการออกกำลังกายที่ต้องการการทรงตัวสูง 

 ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง HOKA Arahi 7

 

  1. Saucony Ride 17

พื้นโฟมและดีไซน์ที่สวมใส่สบาย Ride 17 ให้ความยืดหยุ่นและการรองรับที่ดี เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่ต้องเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้รู้สึกดีตลอดการฝึก 

จุดเด่น: พื้นรองเท้ายืดหยุ่นและซัพพอร์ตดี เหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวที่ต้องการการรองรับที่ดี เช่น การวิ่งบนลู่วิ่งหรือพื้นยิม 

ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง Saucony Ride 17

 

  1. Saucony Guide 17

รองเท้าเทรนนิ่ง Saucony Guide 17 รุ่นนี้โดดเด่นในการซัพพอร์ตอุ้งเท้า ช่วยลดแรงกระแทก เหมาะกับผู้ที่ฝึกหนักหน่วงและต้องการรองเท้าที่ช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ 

จุดเด่น: การซัพพอร์ตที่ดีและป้องกันการบาดเจ็บ ด้วยการออกแบบที่รองรับอุ้งเท้า เหมาะกับการฝึกระยะกลางถึงไกล 

ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง Saucony Guide 17

 

  1. Saucony Kinvara 14

Kinvara 14 มีความเบาและคล่องตัว เหมาะสำหรับการฝึกที่ต้องการความรวดเร็วและการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการคาร์ดิโอ การวิ่ง หรือการฝึกที่ต้องการความเร็ว 

จุดเด่น: น้ำหนักเบาและตอบสนองรวดเร็ว เหมาะสำหรับการฝึกที่เน้นความเร็วและความคล่องตัวสูง เช่น คาร์ดิโอหรือ HIIT 

ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง Saucony Kinvara 14

 

  1. Adidas Adizero SL

ด้วย Lightstrike Pro ที่เบาและมีแรงดีด ช่วยในการกระโดดและการวิ่งที่ต้องการความเร็วสูง Adizero SL จึงเป็นรองเท้าที่เหมาะกับการออกกำลังกายที่เข้มข้นอย่าง HIIT 

จุดเด่น: เทคโนโลยี Lightstrike Pro ที่เบาและมีแรงดีด ช่วยในการเคลื่อนไหวเร็วหรือการกระโดด เหมาะกับการทำคาร์ดิโอแบบเข้มข้น 

ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง Adidas Adizero SL

 

  1. ON Cloudsurfer

นวัตกรรม CloudTec ที่นุ่มและซัพพอร์ตแรงกระแทกทุกการสัมผัสพื้น ทำให้ Cloudsurfer เหมาะกับการฝึกซ้อมที่ต้องการความสบายและการซับแรงที่ดี พร้อมใช้ได้ทุกวันและในทุกการฝึก 

จุดเด่น: CloudTec ซับแรงกระแทกทุกการสัมผัสพื้น ให้ความสบายสูงสุด เหมาะกับการฝึกทั้งในยิมและการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน 

ทางไปซื้อรองเท้าเทรนนิ่ง ON Cloudsurfer

 

รองเท้าทั้ง 10 รุ่นนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่ทุกรุ่นล้วนถูกออกแบบมาเพื่อให้การฝึกซ้อมของคุณมีประสิทธิภาพและความสบายสูงสุด เลือกรุ่นที่เหมาะกับสไตล์และเป้าหมายของคุณ แล้วพบกับความรู้สึกใหม่ในการออกกำลังกาย ที่ช่วยให้คุณก้าวข้ามขีดจำกัดและพร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายได้มั่นใจขึ้น! ดังนั้นการเลือกรองเท้าที่เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บได้อย่างดี จึงควรเลือกให้สอดคล้องกับลักษณะการออกกำลังกายของคุณ การเลือก "รองเท้าเทรนนิ่ง" ที่เหมาะสม ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย แต่ยังส่งเสริมให้คุณก้าวไปอีกระดับได้อย่างมั่นใจ