อยากพัฒนาการวิ่งต้องรู้ ! วิธีการฝึกซ้อมวิ่งแต่ละประเภทเพื่อให้การซ้อมมีประสิทธิภาพ

เจาะลึก 6 เทคนิคการฝึกซ้อมวิ่งแต่ละประเภทด้วยรองเท้าวิ่ง สำหรับนักวิ่งทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่

การได้ใส่รองเท้าวิ่งแล้วเริ่มต้นออกไปวิ่ง ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมการออกกำลังกาย ที่ไม่เพียงสามารถช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายและช่วยทำให้ร่างกายห่างไกลจากความเสี่ยงในการเจ็บป่วยด้วยโรคในกลุ่มโรคไม่ติดต่อร้ายแรง (NCDs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่การวิ่งยังสามารถช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขหรือสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) ออกมาจนทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย อีกทั้งยังสามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้เป็นอย่างดี

 

อย่างไรก็ตาม ในการจะทำให้การวิ่งออกกำลังกายสามารถให้ผลลัพธ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น สิ่งสำคัญนอกจากการมีรองเท้าวิ่งที่มีคุณภาพ คือ การมีเทคนิคในการวิ่งและวิธีการฝึกซ้อมวิ่งที่เหมาะสม โดยในบทความนี้เราจะขอพาเหล่านักวิ่งทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ทุกคนไปทำความรู้จักกับวิธีการฝึกซ้อมวิ่งแต่ละประเภท ที่จะช่วยทำให้ทุกการซ้อมวิ่งของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

เจาะลึก 6 เทคนิคการฝึกซ้อมวิ่งแต่ละประเภทด้วยรองเท้าวิ่ง

  1. การวิ่งยาว (Long Run)
    การวิ่งยาว (Long Run) เป็นหนึ่งในวิธีการฝึกซ้อมวิ่งแบบระยะไกลด้วยรองเท้าวิ่ง ที่ผู้วิ่งจะต้องวิ่งด้วยความเร็วที่คงที่ตลอดระยะทางไกลโดยไม่เน้นที่ระยะเวลาในการวิ่ง ซึ่งความเร็วในการวิ่งยาวดังกล่าวจะมีความช้ากว่าความเร็วในการวิ่งแบบปกติ เพื่อประโยชน์ในการช่วยเพิ่มความอึดของร่างกาย ความอดทนของกล้ามเนื้อ รวมถึงความแข็งแรงของระบบหัวใจและหลอดเลือด และเป็นการช่วยให้ร่างกายมีความพร้อมสำหรับการวิ่งระยะยาว อาทิ มาราธอน หรือ ฮาล์ฟมาราธอน ที่มากยิ่งขึ้น

  2. การวิ่งเร็วและช้าสลับกัน (Interval Training)
    การวิ่งเร็วและช้าสลับกัน (Interval Training) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการฝึกซ้อมวิ่งด้วยรองเท้าวิ่งในระยะทางสั้น ๆ ด้วยความเร็วที่มากที่สุดและน้อยที่สุดสลับกันไปมา อาทิ การวิ่งเร็วสลับกับการ jogging หรือการวิ่งเร็วสลับกับการเดิน เพื่อจุดประสงค์ในการช่วยพัฒนาความเร็วในการวิ่ง ร่วมกับการช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายมีระดับ VO2Max ที่สูงขึ้นจนส่งผลต่อการมีความฟิตและพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น

  3. การวิ่งไล่กรดแลคติคในร่างกาย (Recovery Run)
    การวิ่งไล่กรดแลคติคในร่างกาย (Recovery Run) เป็นการเดินเร็วแบบการก้าวแบบสบาย ๆ หรือการวิ่งเบา ๆ ด้วยรองเท้าวิ่งในลักษณะที่คล้ายคลึงกันกับการวอร์มอัพร่างกาย เพื่อช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและช่วยให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นจนสามารถกำจัดกรดแลคติคออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการวิ่งไล่กรดแลคติคในร่างกายดังกล่าวจะเป็นการวิ่งในระยะทางสั้น ๆ ประมาณ 5 กม.หรือระยะเวลาประมาณ 15-30 นาที เพื่อเป็นการช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากการลงแข่งวิ่งมาราธอน

  4. การวิ่งแบบสบาย ๆ (Easy Run)
    การวิ่งแบบสบาย ๆ (Easy Run) จะเป็นการวิ่งด้วยรองเท้าวิ่งที่เน้นไปที่การวิ่งแบบสบาย ๆ ไม่หนักหรือไม่เบาจนเกินไป ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับการวิ่ง jogging ที่ผู้วิ่งยังสามารถพูดคุยกับผู้วิ่งคนอื่น ๆ ในระหว่างการวิ่งได้ โดยการวิ่งในรูปแบบของการวิ่งสบาย ๆ ดังกล่าวนี้จะช่วยในเรื่องของการเผาผลาญและฝึกความอึดทนของร่างกาย เพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยยากขึ้นและมีความพร้อมสำหรับการฝึกวิ่งในรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการฝึกซ้อมวิ่งในรูปแบบที่หนักมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  5. การวิ่งขึ้นเนิน (Hill Training)
    การวิ่งขึ้นเนิน (Hill Training) เป็นอีกหนึ่งวิธีฝึกซ้อมวิ่งด้วยการใส่รองเท้าวิ่งที่ผู้วิ่งจะต้องทำการวิ่งขึ้นทางลาดชัน วิ่งขึ้นเนิน หรือวิ่งขึ้นบันได แล้ววิ่งลงมาซ้ำเป็นรอบ ๆ โดยการวิ่งขึ้นเนินดังกล่าวถือเป็นวิธีการฝึกซ้อมวิ่งแบบยกเข่าที่สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา ฝึกความแข็งแกร่งเฉพาะจุด และเพิ่มพละกำลังให้กับนักวิ่งได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยพัฒนาระบบหัวใจและหลอดเลือด และช่วยทำให้นักวิ่งสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดของร่างกายได้มากยิ่งขึ้น

  6. การวิ่งฟาร์ทเลก (Fartlek Run)
    ปิดท้ายกันด้วยการวิ่งฟาร์ทเลก (Fartlek Run) ซึ่งเป็นวิธีการฝึกซ้อมวิ่งด้วยการใส่รองเท้าวิ่งในรูปแบบผสมผสานระหว่างการวิ่งด้วยความเร็วและการวิ่งช้าในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้ผู้วิ่งสามารถเล่นกับความเร็วในการวิ่งของตัวเองได้ตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับสูงสุด โดยในการฝึกซ้อมวิ่งฟาร์ทเลกให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้วิ่งอาจใช้วิธีการวิ่งในรูปแบบ City Run หรือ การหาเส้นทางวิ่งในธรรมชาติที่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อเป็นการช่วยฝึกความเร็ว ฝึกกล้ามเนื้อ ฝึกการทรงตัว และช่วยให้ผู้วิ่งสามารถปรับความเร็วได้อย่างเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความรู้สึกในช่วงเวลานั้น ๆ ได้มากยิ่งขึ้น

 

ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการฝึกซ้อมวิ่งที่มีประสิทธิภาพด้วยรองเท้าวิ่งจาก บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มสปอร์ต (Sportswear and Footwear) และสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์แฟชั่น ภายใต้สโลแกน "The great performing athlete is always driven by the great sport gear หรือ ประสิทธิภาพและความสำเร็จในการเล่นกีฬาของทุกคน นอกเหนือจากการทุ่มเทฝึกซ้อมแล้ว ต้องอาศัยอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน” ที่ได้มีการนำเข้าสินค้าและรองเท้าวิ่งแบรนด์กีฬาชั้นนำมากมาย อาทิ NIKE, UNDER ARMOUR , ASICS ,HOKA, VIBRAM, SOFSOLE และกลุ่มไลฟ์สไตล์แฟชั่นอาทิ CHAMPION TEVA&SANUK อีกทั้งยังมีธุรกิจร้านกีฬา Multi-brand store ภายใต้แบรนด์ REV RUNNR ซึ่งเป็นร้านรองเท้าวิ่งสำหรับผู้ที่รักการวิ่งโดยเฉพาะ

 


สอบถามข้อมูลเรื่องรองเท้าวิ่ง
https://www.rev.co.th
ติดต่อ : https://www.rev.co.th/contact-us
Line : https://lin.ee/PCz490D
Facebook : https://www.facebook.com/sportsrev.th
Instagram : https://www.instagram.com/rev.runnr