ไขคำตอบ ออกกำลังกายกี่นาที ร่างกายถึงเริ่มใช้ไขมัน

ระยะเวลาในการออกกำลังกายส่งผลต่อการเผาผลาญได้อย่างไร

สำหรับใครที่อยากลดน้ำหนัก หรืออยากให้สัดส่วนเข้ารูป กระชับ การออกกำลังกายเพื่อผอมจึงเป็นเป้าหมายของใครหลายคนที่มีน้ำหนักเกินหรือต้องการให้ตัวเองมีหุ่นที่ดีขึ้น แต่ทำไมหลายคนแม้จะออกกำลังกายทุกวันแต่สัดส่วน หรือน้ำหนักไม่ลดลงเลย นั่นอาจเป็นเพราะยังไม่เข้าใจหลักของการออกกำลังกายที่ถูกต้อง วันนี้ เรฟ อิดิชั่น จะมาไขคำตอบว่าต้องออกกำลังกายกี่นาทีร่างกายถึงเริ่มใช้ไขมัน


ระยะเวลาในการออกกำลังกายช่วยอะไรบ้าง

  • ออกกำลังกายวันละ 30 นาที เพื่อสุขภาพที่ดี
    ระยะเวลาในการออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน และออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยรักษาน้ำหนักตัวไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ส่งผลให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคความดันโลหิตผิดปกติได้อีกด้วย

  • ออกกำลังกายวันละ 40 นาทีขึ้นไป เพื่อลดน้ำหนัก
    การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักนั้น ไม่เพียงแต่ต้องมีวินัยในการออกกำลังกายเท่านั้น แต่คุณต้องดูแลทั้งการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย ถ้าให้ เรฟ เอดิชั่นแนะนำควรออกกำลังกายทั้งแบบเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอ เนื่องจากในช่วง 30 นาทีแรกของการออกกำลังกาย ร่างกายจะดึงพลังงานจากน้ำตาลและแป้งมาใช้เป็นพลังงานหลัก และหลังจาก 30 นาทีร่างกายจึงจะดึงไขมันที่สะสมในร่างกายออกมาใช้เป็นพลังงาน


ออกกำลังกายแบบไหนเผาผลาญดีที่สุด

  • กระโดดเชือก (120 ครั้ง/นาที)
    เผาผลาญได้ 667 - 990 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง เป็นการออกกำลังกายคาร์ดิโอที่ได้ผลดีมาก เพราะต้องออกแรงมาก และทำให้แขนกับไหล่ขยับตลอดเวลา

  • วิ่ง (10 นาที/1.6 กิโลเมตร)
    เผาผลาญได้ 566 - 839 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง การวิ่งช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มาก และกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญได้ต่อเนื่องไปตลอดทั้งวัน

  • คิกบ็อกซิ่ง (Kickboxing)
    เผาผลาญได้ 582 - 864 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่เผาผลาญแคลอรีได้มาก

  • เดินขึ้น-ลงบันได (77ขั้น/นาที)
    จะสามารถเผาผลาญไขมันได้ถึง 452-670 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง การเดินออกกำลังกายเป็นการออกกำลังกายที่ดีมากอย่างหนึ่ง และไม่ทำให้ข้อเข่าได้รับแรงกระแทกมากจนเกินไป และหากเป็นการเดินขึ้นและลงบันไดด้วย จะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากยิ่งขึ้น


ข้อควรปฏิบัติหลังการออกกำลังกาย

ภายหลังหยุดออกกำลังกาย ร่างกายจะผลิตกรดชนิดหนึ่งออกมาทำให้รู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตัว แต่คนที่ออกกำลังกายบ่อย ๆ จะมีความต้านทานต่อกรดชนิดนี้ได้มาก จึงปวดเมื่อยน้อยกว่า คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่กระบวนการผลิตนี้ใช้พลังงานค่อนข้างมาก ร่างกายจึงต้องการพลังงานต่อเนื่องไปอีกประมาณ 15 นาที

ใน 15 นาทีหลังหยุดออกกำลังกาย หากมีการกินอาหารจำพวกแป้งหรือน้ำตาลลงไปแล้วล่ะก็ ร่างกายจะตรวจพบว่ามีน้ำตาลในแหล่งพลังงานหลักแล้ว ร่างกายจะหยุดดึงไขมันออกมาใช้ทันที และหันไปใช้น้ำตาลจากพลังงานหลักแทน ดังนั้นหลังจากออกกำลังกาย 15 นาที ควรดื่มน้ำเปล่าไปเรื่อย ๆ จนกว่าเหงื่อจะแห้งแล้วค่อยอาบน้ำ ห้ามดื่มน้ำตาลหรือทานอาหารจำพวกแป้งเด็ดขาด


คำแนะนำในการดื่มหรือกินหลังจากออกกำลังกายเสร็จ

ก่อนออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง ไม่ควรกินอาหารเพราะจะทำให้ร่างกายสะสมพลังงานหลักไว้มากเกินไป ทำให้ช่วงเวลาที่จะดึงไขมันออกมาใช้ยืดออกไปอีก และก่อนออกกำลังกาย 15 นาที ควรดื่มน้ำเปล่าทีละอึกไปเรื่อย ๆ เพราะขณะออกกำลังกายร่างกายจะเสียน้ำไปเร็วมาก ควรดื่มเพื่อสะสมน้ำไว้ล่วงหน้า ขณะออกกำลังกายหมั่นดื่มน้ำทีละน้อย ๆ บ่อย ๆ เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไป


ถ้าก่อนออกกำลังกายรู้สึกหิว ควรกินหรือไม่?

คำตอบคือ ไม่ต้องกิน เพราะถึงจะรู้สึกหิว แต่เมื่อร่างกายเริ่มมีกิจกรรมไป 10 นาที ร่างกายจะหยุดหิวทันที และจะหิวอีกครั้งเมื่อร่างกายหยุดกิจกรรม ที่สำคัญ 15 นาทีแรกที่หยุด อย่าเพิ่งกิน ให้ดื่มน้ำประทังไปก่อน เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นหากกินอาหารเลยหลังออกกำลังกาย 15 นาที เท่ากับวันนั้นคุณออกกำลังกายฟรี!

 

รู้หรือไม่ว่าอุปกรณ์ออกกำลังกาย เช่น รองเท้าวิ่งที่ดี มีผลต่อการออกกำลังกาย

  • รองเท้าวิ่งจะช่วยรองรับแรงกระแทก - รองเท้าวิ่งที่ดีจะมีเทคโนโลยีในการรองรับแรงกระแทก ช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ข้อเท้า หัวเข่า และสะโพก
  • รองเท้าวิ่งจะช่วยในการยึดเกาะ -พื้นรองเท้าที่มีการยึดเกาะที่ดีช่วยป้องกันการลื่นและการล้ม ทำให้สามารถวิ่งบนพื้นผิวต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ
  • รองเท้าวิ่งจะช่วยซัพพอร์ต - รองเท้าวิ่งที่ดีจะมีการซัพพอร์ตที่เหมาะสมกับรูปเท้าของผู้ใช้ ช่วยให้การวิ่งมีความเสถียรและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บจากการวิ่งผิดท่า
  • ความสบาย - รองเท้าที่สวมใส่สบายช่วยให้สามารถวิ่งได้ยาวนานขึ้น โดยไม่รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายที่เท้า
  • การระบายอากาศ - รองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีช่วยลดความอับชื้นและป้องกันการเกิดเชื้อราหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
  • น้ำหนักเบา - รองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบาช่วยให้การเคลื่อนไหวคล่องตัวและลดความเมื่อยล้าในระยะยาว
  • การปรับตัวตามสภาพเท้า - รองเท้าวิ่งที่ดีจะออกแบบมาเพื่อปรับตัวตามการเคลื่อนไหวของเท้า ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บจากการวิ่งในระยะยาว

 


ดังนั้น การเลือกใช้อุปกรณ์ในการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าวิ่ง รองเท้าใส่เดินออกกำลังกาย รองเท้าสำหรับเวทเทรนนิ่ง หรือแม้กระทั่งชุดออกกำลังกายที่เหมาะสมและมีคุณภาพจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ และทำให้การวิ่งมีความสนุกสนานและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

หากคุณกำลังมองหา รองเท้าวิ่ง รองเท้าสำหรับเดิน รองเท้าสำหรับออกกำลังกายในยิม รองเท้าบาส เก็ตบอล หรืออุปกรณ์กีฬาอื่นๆ เช่น เสื้อ กางเกง ฯลฯ แวะมาที่เรา บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด ผู้นำเข้าจำหน่ายและบริหารธุรกิจร้านค้าปลีก สินค้าในกลุ่มสปอร์ต Sportwear and Footwear เรานำเข้าแบรนด์สินค้ามากมาย อาทิ NIKE, Under Armour, Asics, HOKA, Vibram, SofSole, Saucony รวมถึงกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น Champion, TEVA&SANUK เรามีบริการทั้งหมด 15 สาขา ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น หรือหากไม่สะดวกเดินทาง สามารถช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมโค้ดส่วนลดและโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่

 

สอบถามข้อมูลเรื่องรองเท้าวิ่ง
ติดต่อ : https://www.rev.co.th/contact-us
Line : https://lin.ee/PCz490D
Facebook : https://www.facebook.com/sportsrev.th
Instagram : https://www.instagram.com/rev.runnr