ตอบทุกข้อสงสัย ออกกำลังกายช่วงเวลาไหนดีที่สุด?

“สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง” ประโยค Cliche ที่ได้ยินกันอยู่เป็นประจำ แต่มันคือเรื่องจริง เพราะการออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายนั้น ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทองมากมาย แค่การเดินหรือวิ่งในหมู่บ้าน ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเข้ายิมเสมอไป การเดินและวิ่ง วันละ 30 นาที สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและข้อต่อ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดและหัวใจอีกด้วย

ที่สำคัญ คืออุปกรณ์ในการออกกำลังกาย ต้องได้มาตรฐาน เช่น รองเท้าวิ่ง หรือรองเท้าสำหรับเดิน หากเป็น รองเท้าวิ่ง ที่ได้มาตรฐานมันจะช่วยรองรับแรงกระแทกข้อเข่าได้ แต่ยังคงมีคำถามข้อสงสัยที่ถกเถียงกันมาตลอดถึงช่วงเวลาของการออกกำลังกายว่า ออกกำลังกายช่วงไหนถึงจะได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด วันนี้ REV จะมาตอบทุกข้อสงสัย

 

ควรออกกำลังกายนานแค่ไหน

หากต้องการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินต่างๆ ควรออกกำลังกายให้ได้ 30 นาทีขึ้นไป แต่หากมีเป้าหมายแค่เพื่อต้องการให้สุขภาพดี การออกกำลังกายวันละ 15-30 นาทีก็น่าจะเพียงพอ โดยที่ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายทีเดียว 30 นาที สามารถแบ่งออกเป็นเซ็ตๆ ได้ เช่น เดินขึ้น-ลงบันได 10 นาที ทำทั้งหมด 3 เซต จบ 1 เซตพัก 5 นาที เป็นต้น

 

ข้อดี-ข้อเสียของการออกกำลังกายแต่ละช่วงเวลา

  1. การออกกำลังกายช่วงเช้า
    หากต้องการออกกกำลังกายในช่วงเช้า แนะนำว่าควรรับประทานอะไรเบาๆ ก่อนออกกำลังกาย เช่น กลัวยหอม 1 ผล นม แซนวิช ก่อนการออกกำลังกาย 30 นาที เพราะการตื่นนอนในช่วงเช้าร่างกายยังไม่มีพลังงานไปให้กล้ามเนื้อแขนและขา การรับประทานอะไรเบาๆ ก่อนออกกำลังกายก็เพื่อต้องการให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและพลังงานไปยังอวัยวะต่างๆ หากไม่ได้รับประทานอาหารรองท้องก่อนออกกำลังกายตอนเช้า อาจทำให้หน้ามืด หรือในบางรายอาจเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

    ข้อดีของการออกกำลังกายตอนเช้า

    • • สามารถกำหนดเวลาที่เหมาะสมได้ด้วยตัวเอง เช่น เข้างาน 9 โมง ตื่นตี 5 ออกกำลังกายก่อนออกจากบ้านตอน 7 โมงเช้า เป็นต้น
    • • ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
    • • ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการนอนตอนกลางคืน
    • • ช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญอาหารได้ดี เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

    ข้อเสียของการออกกำลังกายตอนเช้า

    • • หากนอนไม่พอจะทำให้เพลียมากกว่าเดิม
    • • ตับจะทำงานหนักขึ้น เพราะระหว่างการนอนหลับ ตับยังคงทำงานอยู่ เมื่อตื่นนอนร่างกายจะยังไม่มีพลังงานเหลืออยู่ในหลอดเลือด ที่เพียงพอต่อการออกกำลังกาย ตับจะต้องดึงสารอาหารที่เก็บเอาไว้ออกมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้ตับทำงานหนักตลอดเวลา ไม่ได้พัก
    • • ตอนเช้า อุณหภูมิในร่างกายจะต่ำกว่าปกติ ส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเลือดไหลเวียนน้อย ทำให้ร่างกายไม่สามารถออกกำลังได้อย่างเต็มที่ และอาจเกิดการบาดเจ็บกล้ามเนื้อได้ง่าย


  2. การออกกำลังกายช่วงบ่าย

    นับเวลาตั้งแต่ช่วงเที่ยงถึงบ่ายๆ จะเป็นช่วงที่ร่างกายตื่นตัวเต็มที่ ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานปกติ ฟื้นฟูจากการได้พักผ่อนมาเมื่อคืน

    ข้อดีของการออกกำลังกายตอนบ่าย

    • • ระดับฮอร์โมนและการไหลเวียนโลหิตในร่างกายจะสูงกว่าช่วงเช้า และอยู่ในระดับปกติ สามารถใช้แรงออกกำลังกายได้มาก
    • • ช่วยลดความอยากอาหารในมื้อเย็นลงได้
    • • ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่น ลดการง่วงในช่วงบ่ายได้
    • • ช่วยผ่อนคลายความเครียด
    • • มีการรายงานว่า ระบบการหายใจในช่วงบ่ายจะทำงานดีกว่าในช่วงอื่นๆ ของวัน
    • • มีรายงานจากด็อกเตอร์ David W.Hill เปิดเผยในบทความหนึ่งจาก Ergonomics ในปี 2007 ว่า ช่วงบ่าย ร่างกายจะมีความแข็งแรงและยืดมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ถึง 5% ทำให้ช่วงบ่ายเป็นช่วงที่เหมาะกับการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก

    ข้อเสียของการออกกำลังกายตอนบ่าย

    • • แม้ว่าในช่วงบ่ายระบบการหายใจจะดีกว่าช่วงอื่นๆ แต่ในตอนเที่ยงวัน ระบบการหายใจจะทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ จะทำให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายลดลง 12-20%
    • • หากเป็นพนักงานประจำ การออกกำลังกายในช่วงบ่ายอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แม้จะไม่ได้เป็นพนักงานประจำก็ตาม แต่ช่วงเที่ยงไปจนถึงบ่ายมักจะเป็นช่วงเวลาของการนัดหมายประชุมสำคัญๆ ทำให้ไม่สามารถแบ่งเวลาการออกกำลังกายได้



  3. การออกกำลังกายช่วงเย็น
    หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ให้พักสัก 1-2 ชั่วโมง จึงจะสามารถออกกำลังกายได้ และจะทำให้สารอาหารที่รับประทานเข้าไปนั้น ถูกนำไปใช้เป็นพลังงานจนเหลือสารอาหารน้อยที่สุด ทำให้เมื่อถึงเวลาเข้านอนจะมีไขมันพอกที่หลอดเลือดหรือไขมันส่วนเกินต่างๆ “น้อยกว่า” ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย


    สำหรับการออกกำลังกายช่วงเย็น แอนดรูว์ เคท พบกว่าการออกกำลังกายปานกลาง จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายได้

    ข้อดีของการออกกำลังกายตอนเย็น

    • • เวลา 4-5 โมงเย็นนั้น เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดี
    • • กล้ามเนื้อแข็งแรง พร้อมสำหรับการออกกำลังกายทุกท่า ได้มากกว่าการออกกำลังกายตอนเช้า
    • • อัตราการบาดเจ็บจะน้อยกว่าการออกกำลังกายตอนเช้า เพราะกล้ามเนื้อในร่างกายมีการเคลื่อนไหวมาทั้งวัน
    • • มีพลังในการออกกำลังกายมากกว่าตอนเช้า เหมาะกับผู้ที่ต้งอการเพิ่มกล้ามเนื้อ แต่แนะนำว่าควรออกกำลังกายก่อนการเข้านอน 4-6 ชั่วโมง

    ข้อเสียของการออกกำลังกายตอนเย็น

    • • การออกกำลังกายช่วงเย็น จะทำให้ร่างกายตื่นตัว ส่งผลต่อการนอนหลับ และการหลั่งฮอร์โมน
    • • สถานที่ออกกำลังกายมีจำกัด เนื่องจากเป็นช่วงเย็นถึงค่ำ อาจต้องเข้ายิมอย่างเดียว
    • • ร่างกายเผาผลาญไขมันสะสมได้ช้า เพราะพลังงานที่จะใช้ในการเผาผลาญไขมันถูกนำไปใช้ออกกำลังกายหมดแล้ว ทำให้ร่างกายต้องใช้เวลานานขึ้นในการเผาผลาญไขมัน

 

วัยทำงานออกกำลังกายเวลาไหนดีที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานหรือวัยไหน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังกายก็คือ “ช่วงที่คุณพร้อม” การออกกำลังกายไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น จัดว่าเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับสุขภาพด้วยกันทั้งสิ้น เพียงต่อ อาจจะต้องใส่ใจร่างกายแต่ละช่วงเวลา เช่น เช้าหาอะไรรองท้องก่อนออกกำลังกาย บ่ายจัดสรรเวลาดีๆ ไม่ให้ไปชนกับประชุม ส่วนตอนเย็นจะนัดเพื่อนเตะบอล หรือวิ่ง ก็ให้การออกกำลังกายนั้นเสร็จก่อนเวลาเข้านอน 6 ชั่วโมง เมื่อได้ทราบข้อควรระวังในแต่ละช่วงเวลาการออกกำลังกาย คุณก็เเค่นำมันมาปรับใช้กับไลฟ์สไตล์ของคุณ ทีนี้ ไม่ว่าจะออกกำลังกายช่วงไหน ก็ได้ประโยชน์เหมือนๆ กัน ที่สำคัญอุปกรณ์การออกกำลังกายต้องดี

 

หากคุณกำลังมองหา รองเท้าวิ่ง รองเท้าสำหรับเดิน รองเท้าบาสเก็ตบอล อุปกรณ์กีฬาอื่นๆ เช่น เสื้อ กางเกง ฯลฯ แวะมาที่เรา บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด ผู้นำเข้าจำหน่ายและบริหารธุรกิจร้านค้าปลีก สินค้าในกลุ่มสปอร์ต Sportwear and Footwear เรานำเข้าแบรนด์สินค้ามากมาย อาทิ NIKE, Under Armour, Asics, HOKA, Vibram, SofSole รวมถึงกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น Champion, TEVA&SANUK เรามีบริการทั้งหมด 15 สาขา ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น

 

หรือหากไม่สะดวกเดินทาง สามารถช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมโค้ดส่วนลดและโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่

Website : https://www.rev.co.th/
Facebook : https://www.facebook.com/sportsrev.th
Tel : 02 672 9141