รองเท้าวิ่งอันที่จริงมีหลายประเภทให้เลือกเยอะมาก ซึ่งรองเท้าวิ่งแต่ละแบบจะถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่ละแบบจะมีเอกลักษณ์ ใช้วัสดุที่เป็นพื้นรองเท้า หรือมีนวัตกรรมที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์การวิ่งในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะ ถ้าหากคุณชอบเดิน Trail แล้วกำลังมองหารองเท้าวิ่ง Trail สักคู่ ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีวิธีการเลือก และแบ่งความแตกต่างระหว่างรองเท้าวิ่ง และรองเท้าวิ่งเทรลอย่างไร
เพื่อเพิ่มทางเลือกก่อนตัดสินใจ ในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งเทรล วันนี้เราจึงมีข้อเปรียบเทียบ ของรองเท้าวิ่งกับรองเท้าวิ่งเทรลมาฝาก เพราะว่ารองเท้าวิ่งธรรมดาทั่วไป กับรองเท้าวิ่งเทรลมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ถ้าหากซื้อรองเท้าวิ่งเพื่อไปใช้งานผิดวัตถุประสงค์อาจจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะคุณอาจจะปวดเมื่อยเท้า หรือได้รับแรงซัพพอร์ตจากรองเท้าไม่มากพอ
รองเท้าวิ่ง - ให้เลือกพื้นรองเท้าที่เรียบและค่อนข้างหนา สามารถรองรับแรงกระแทกจากการวิ่งได้ดี ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการวิ่งบนพื้นแข็งๆ สามารถวิ่งได้อย่างสะดวกสบาย ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นสูง มีการระบายอากาศที่ค่อนข้างดี น้ำหนักเบา จึงเป็นรองเท้าที่เหมาะสำหรับการวิ่งบนทางที่ไม่ต้องผจญภัยมากนักเช่น พื้นสนาม พื้นถนน
รองเท้าวิ่งเทรล - เพื่อให้สามารถวิ่งบนพื้นที่ขรุขระ พื้นผิวที่ไม่เรียบ มีดิน มีโคลน หรือแม้แต่พื้นลื่นได้ดี เหมาะกับสายวิ่งผจญภัย การออกแบบให้โครงสร้างของรองเท้าวิ่งเทรลจึงมีความแข็งแรง
รองเท้าวิ่ง - ส่วนใหญ่แล้วรองเท้าวิ่งจะถูกออกแบบมา เพื่อสวมใส่ได้กระชับรับกับสรีระเท้า บริเวณส้นเท้าจะมีพื้นรองเท้าหนา ยืดหยุ่นสูง เพื่อรองรับกับการกระแทกที่เกิดขึ้นในขณะที่กำลังวิ่ง ส่วนกลางเท้าจึงถูกออกแบบให้มีความเว้า ช่วยระบายอากาศได้ดี มีน้ำหนักที่เบา การออกแบบดีไซน์เน้นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในขณะวิ่ง รวมถึงสามารถใส่วิ่งได้นาน
รองเท้าวิ่งเทรล - มีการออกแบบมาให้มีความห่างกันและชิดติดกัน ที่ส่วนของดอกยางที่พื้นรองเท้า การออกแบบดอกยางแบบที่มีความหลากหลายให้เหมาะกับทุกสถานการณ์ โดยคำนึงถึงประเภทของการวิ่งเทรล มีการออกแบบเพิ่มให้มีการเสริมยางสำหรับป้องกันนิ้วเท้า ป้องกันไม่ให้เท้าบิดตัว ไม่ทำให้เท้าพลิกเวลาที่ต้องวิ่งสิ่งต่างๆขณะวิ่ง ลักษณะของเนื้อผ้าที่มีความหนา ทำให้มีความแข็งของรองเท้า เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
รองเท้าวิ่ง - คุณสมบัติการยึดเกาะจะเป็นพื้นผิวที่เรียบ ไม่ขรุขระมาก ทำให้รองเท้าวิ่งมีน้ำหนักเบากว่ารองเท้าเทรล
รองเท้าวิ่งเทรล - เน้นการยึดเกาะดีกับพื้นผิวไม่เรียบ ที่มีความขรุขระ จึงทำให้มีน้ำหนักมากกว่ารองเท้าวิ่งธรรมดา
รองเท้าวิ่ง - มีความยืดหยุ่นที่มากกว่ารองเท้าวิ่งเทรล เพราะมีพื้นรองเท้าที่เรียบและค่อนข้างหนา สามารถรองรับแรงกระแทกจากการวิ่งได้ดี
รองเท้าวิ่งเทรล - ยืดหยุ่นได้น้อยกว่ารองเท้าวิ่งธรรมดา เพราะรองเท้าวิ่งเทรลมีลักษณะที่แข็งกว่า
รองเท้าวิ่ง - มีการออกแบบให้สามารถระบายอากาศได้ดี และมีความยืดหยุ่น
รองเท้าวิ่งเทรล - มีความแข็งและยืดหยุ่นได้น้อยกว่า การระบายอากาศนั้นทำได้ไม่ดีเท่ากับรองเท้าวิ่งเพราะมีการเสริมแผ่นสำหรับป้องกันรอยขีดข่วน การกระแทก
รองเท้าวิ่งเทรลจะมีเอกลักษณ์ และลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากรองเท้าวิ่งทั่วไป ดังนี้
การเลือกรองเท้าวิ่งเทรลเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะสภาพพื้นที่เส้นทางของการวิ่งเทรลนั้นมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ถนน ภูเขา ป่า ทุ่งหญ้า ล้วนแล้วแต่มีพื้นผิวแตกต่างกันออกไป หากเราอยากวิ่งแบบผจญภัยให้สนุกไปกับเส้นทางสายธรรมชาติเหล่านี้ เราจึงมีวิธีเลือกรองเท้าวิ่งเทรลโดยการพิจารณาจาก 3 ส่วนของรองเท้าเทรลดังนี้
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ารองเท้าวิ่งเทรลมีรุ่นที่เฉพาะเจาะจง สำหรับการใช้งานในการวิ่งเทรลโดยเฉพาะ และถ้าคุณเองก็ยังมือใหม่สำหรับการวิ่งเทรล หรือเป็นนักวิ่งที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น แนะนำรองเท้าวิ่งเทรลที่หาซื้อใน Rev Edition กับแบรนด์ดังอย่าง SAUCONY ได้แก่รุ่น SAUCONY Endorphin Edge, SAUCONY Endorphin Rift, SAUCONY Endorphin Trail, HOKA-TECTON X 3, HOKA-SPEEDGOAT 6 และ HOKA-MAFATE SPEED
นักวิ่งเทรลต้องมีรองเท้าเทรลเพื่อช่วยให้เกิดความปลอดภัยขณะวิ่ง เพราะรองเท้าเทรลเหมาะกับการใช้งานในพื้นผิวไม่เรียบ ดินแบบมีโคลน พื้นลื่น ดังนั้นที่สำคัญที่สุดคือ ควรเลือกซื้อให้เหมาะกับการวิ่งผจญภัยในแบบที่เราใช้งาน เพราะการวิ่งเทรลนั้นค่อนข้างกว้าง อยากให้ลองเลือกรองเท้าวิ่งเทรลตามสภาพเส้นทางที่วิ่งประจำ
ความคล่องตัวน้ำหนักเบาสวมใส่สบาย ยึดเกาะดีกว่ารองเท้าวิ่งทั่วไป อีกทั้งทนทานต่อพื้นผิวที่ไม่ใช่พื้นเรียบ คุณสมบัติที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะของรองเท้าวิ่งเทรลจึงทำให้รองเท้าวิ่งเทรล สามารถใส่เดินได้อย่างแน่นอน แต่ถึงแม้จะสามารถสวมใส่เดินได้ก็ไม่เหมาะสมมากนัก เพราะพื้นรองเท้าวิ่งเทรลจะแข็งพื้นล่างมีปุ่มเพื่อให้เกาะกับพื้นดินเมื่อใส่เดินนานเกินไปอาจจะทำให้รู้สึกตึงล้าหรืออาจบาดเจ็บได้
หลังใช้งานทุกครั้งควรถอดพื้นรองเท้าและดึงลิ้นรองเท้าออกนำไปกำจัดกลิ่น อาจโรย เบคกิ้งโซดาช่วยลดกลิ่นอับชื้น หรือระบายความอับชื้นโดยการผึ่งลม สามารถตากพัดลมในที่อากาศถ่ายเทได้ดีแต่ไม่ควรตากแดดหรือให้ถูกความร้อนมากเกินไปเพราะจะทำให้คุณภาพของยางเสื่อมลง ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นผสมผงซักฟอกแบบเจือจางค่อยๆเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่มีคราบสกปรก ตามด้วยการล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก่อนนำไปผึ่งลมให้แห้ง ในบริเวณที่อากาศถ่ายเท